โยคะเป็นวิธีการฝึกร่างกาย ตั้งสมาธิ พร้อมทั้งหายใจเข้าออกแบบลึกที่มีมาตั้งแต่โบราณ โดยการฝึกโยคะเป็นประจำจะช่วยฝึกให้เรามีความอดทน แข็งแกร่ง สงบ ยืดหยุ่น และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ ทำให้โยคะเป็นหนึ่งในวิธีการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยคำว่า “โยคะ” ปรากฏขึ้นครั้งแรกในตำราโบราณที่ชื่อว่า Rig Veda ซึ่งมาจากคำภาษาสันสกฤตคำว่า “ยุจ” ที่แปลว่า “สหภาพ” หรือ “การเข้าร่วม”
เชื่อว่าว่าโยคะเกิดขึ้นในทางตอนเหนือของอินเดียมานานตั้งแต่เมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว ต่อมาพระอินเดียได้เป็นผู้เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโยคะในโลกตะวันตกในช่วงปลายทศวรรษ 1890 และได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในช่วงทศวรรษ 1970 ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป วิธีการฝึกร่ายกายและจิตใจด้วยโยคะก็ต่างออกไปด้วย
โดยโยคะแบบสมัยใหม่จะเน้นไปที่ท่าทางที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อเพิ่มพลังให้กับร่างกาย พร้อมกับเสริมความสงบขึ้นภายในจิตใจ ในขณะที่โยคะแบบโบราณไม่ได้เน้นไปในลักษณะของการออกกำลังกาย แต่เน้นไปที่การจดจ่อต่อจิตใจของตัวเองและเพิ่มพลังจิตให้กับผู้ฝึก
หลายคนที่ฝึกโยคะพบว่าช่วยให้ได้พบกับความสมดุลของร่างกายและจิตใจ รวมทั้งมีไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟและดีต่อสุขภาพ ในบทความนี้เราจะพาผู้อ่านไปดูเหตุผลกันว่า ทำไมคนถึงนิยมฝึกโยคะและประโยชน์ของโยคะมีอะไรบ้าง?
ประโยชน์ของการฝึกโยคะ
1. โยคะช่วยสร้างสมดุล
โยคะเป็นวิธีการฝึกออกกำลังกายที่ช่วยสร้างสมดุลให้กับร่างกาย ตั้งแต่ระบบกล้ามเนื้อ ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบย่อยอาหาร และระบบประสาท ผ่านการเคลื่อนไหวแบบช้า ๆ พร้อมกับการหายใจลึก ๆ ที่เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และกระตุ้นให้อวัยวะลต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
2. เสริมสร้างสมรรถนะของทางเดินหายใจ
โยคะช่วยให้ผู้ฝึกได้ฝึกการกำหนดลมหายใจ หายใจเข้าออกแบบลึกมากขึ้น ทำให้มีออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงร่างกายที่มากขึ้น ทำให้อวัยวะในระบบทางเดินหายใจทั้งปอดและหัวใจแข็งแรง
3. การฝึกโยคะช่วยลดความเครียด
จากงานวิจัยพบว่าการฝึกโยคะเป็นประจำช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล เนื่องจากการฝึกโยคะทำให้ร่างกายชะลอการหลั่งของฮอร์โมนคอร์ติซอลที่มักจะหลั่งออกมาเมื่อเกิดความเครียด นอกจากนั้นการฝึกลมหายใจยังช่วยให้เกิดสมาธิและรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
4. โยคะช่วยฝึกการทำงานของสมอง
ในขณะที่คุณกำลังฝึกโยคะ ร่างกายของคุณจะควบคุมการไหลเวียนของเลือด พร้อมส่งออกซิเจนไปเลี้ยงยังสมองโดยตรง ทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น
5. การฝึกโยคะช่วยให้ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ
การฝึกโยคะทำให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบ ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และยังทำให้กล้ามเนื้อมีความกระชับ หลายคนที่ฝึกโยคะได้ผลลัพธ์ที่เห็นผลจริงและเป็นที่น่าพึงพอใจ
6. โยคะคือวิถีชีวิต
โยคะเป็นมากกว่าการออกกำลังกาย แต่เมื่อปฏิบัติเป็นประจำ ทำให้ร่างกายมีความแข็งแรง จิตใจเองก็สงบ ทำให้ได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น เข้าใจทั้งร่างกายและจิตใจของตัวเองและรักตัวเองมากขึ้น จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของในการดำเนินชีวิตสำหรับใครหลาย ๆ คน
7. การฝึกโยคะมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก
โยคะเป็นวิธีออกกำลังกายที่ไม่น่าเบื่อ เพราะมีหลากหลายแบบให้เลือกเล่น ไม่ว่าจะเป็น การฝึกโยคะสำหรับผู้สูงอายุ การฝึกโยคะสำหรับคุณแม่ก่อนคลอดและหลังคลอด โยคะสำหรับเด็ก และโยคะแก้ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ โดยเฉพาะ
8. บรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม
จากงานวิจัยพบว่าการฝึกโยคะเป็นเวลา 10 นาทีต่อวันติดต่อกันเป็นเวลาหนึ่งเดือน ช่วยให้อาการไม่สบายและลดความรุนแรงของอาการปวดที่เกิดขึ้นที่บริเวณคอ หลัง ข้อมือขวา ไปจนถึงสะโพกลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากโยคะช่วยให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวและยืดหยุ่นมากขึ้น
9. โยคะช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
หากใครที่มีปัญหาในการนอนหลับ ลองฝึกโยคะเป็นประจำเพียงแค่วันละ 5-10 นาที เพราะจะช่วยให้คุณสามารถนอนหลับได้ดีขึ้น
10. การฝึกโยคะไม่ต้องใช้อุปกรณ์เยอะ
ประโยชน์ของโยคะอีกอย่างหนึ่งก็คือไม่ต้องมีอุปกรณ์เยอะ แค่ต้องมีเสื่อโยคะหนึ่งผืนเท่านั้น และยังสามารถเล่นได้ทุกที่ทุกเวลา
เห็นได้เลยว่าประโยชน์ในการฝึกโยคะนั้นมีมากมาย ซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์สำหรับร่างกายแล้วยังดีต่อจิตใจด้วย ช่วยลดความเครียด นอนหลับได้ดีขึ้น บรรเทาอาการปวดคอและหลังจากออฟฟิศซินโดรมที่หลาย ๆ คนต้องเผชิญ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 5-10 นาทีต่อวันเท่านั้น ซึ่งผู้ฝึกสามารถทำได้ที่บ้าน โดยมีอุปกรณ์เป็นเสื่อโยคะ 1 ผืนเท่านั้นเอง หลายคนที่ได้ฝึกก็เกิดความชื่นชอบ จนถึงขั้นเรียนจริงจัง และได้รับในประกาศนียบัตรสำหรับสอนโยคะเลยก็มี เชื่อว่าหลายคนที่ได้ลองเล่นโยคะ จะต้องรู้สึกดี และกลับมาดูแลหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตอย่างสุขภาพของตัวเราเองอีกครั้ง
ทดลองเรียนโยคะ ราคาพิเศษ ลงทะเบียนรับสิทธิ์ที่ > https://www.yogaandme.net/sales-page/